Last updated: 11 Jun 2024 | 1368 Views |
ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน การขนส่งสินค้าทางทะเลยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
และอาจพูดได้ว่า"การขนส่งสินค้าทางทะเลเป็นส่วนหนึ่งของระบบการค้าระหว่างประเทศไปแล้ว"
เนื่องจากการขนส่งสินค้าทางทะเลนั้นสามารถขนสินค้าได้ปริมาณครั้งละมากๆ และมีค่าระวางที่ถูกกว่าการขนส่งสินค้าในรูปแบบอื่นๆนั่นเองครับ
ในบทความนี้ CE Logistics Thailand เรามีข้อมูลประเภทของเรือขนส่งสินค้าทางทะเลมาฝากคนโลจิสติกส์กัน
ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้นำเข้าและผู้ส่งออกไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
สิ่งที่ผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกควรทำความเข้าใจก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้บริการเรือขนส่งสินค้า
นั่นคือต้องทราบว่าสินค้าประเภทไหนเหมาะที่จะใช้กับเรือประเภทไหนนั่นเอง
เพราะถ้าใช้เรือผิดประเภทก็คงมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นตามมาอย่างแน่นอน
ในปัจจุบันเรือขนส่งสินค้าที่ผู้นำเข้าควรทำความรู้จักและเลือกใช้ให้เหมาะสม มี 7 ประเภทดังนี้
1. General Cargo Ship หรือ เรือบรรทุกสินค้าทั่วไป
เป็นเรือที่สามารถบรรทุกสินค้ารวมกันได้หลากหลายชนิดถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นชั้นๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดวางสินค้าให้ได้มากที่สุด โดยมีฝาระวางบนดาดฟ้าเรือและระวางชั้นเพื่อขนถ่ายสินค้าขึ้น-ลงเรือ เพื่อให้มีความสะดวกในการเข้า-ออก เมือง หรือเทียบท่าต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
2. Container Ship หรือ เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์
เป็นเรือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นเรือขนาดใหญ่ที่บรรทุกสินค้าในลักษณะของตู้คอนเทนเนอร์ โดยสินค้าที่บรรจุอยู่ในตู้อาจเป็นสินค้าแห้ง สินค้าเหลว สินค้าประเภทอาหาร เช่น ผลไม้ ผักสด ปลา เนื้อสัตว์ สารเคมี ปุ๋ย สุรา เครื่องจักร เป็นต้น การขนส่งประเภทนี้มีความปลอดภัยและช่วยให้อัตราการสูญหายของสินค้าระหว่างการขนส่งลดลงอย่างมาก และยังทำให้การขนถ่ายสะดวกรวดเร็ว สามารถทำให้เรือขนส่งสินค้าใช้เวลาน้อยลง สามารถช่วยลดปัญหาความแออัดของเรือ
ซึ่งผู้ส่งสินค้าจะได้รับประโยชน์จากการไม่ถูกเรียกเก็บค่า Congestion Surcharge (เป็นค่าใช้จ่ายพิเศษเนื่องจากความแออัดในท่าเรือเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการบริหารจัดการได้ไม่ดี)
3. Bulk Carrier หรือ เรือบรรทุกสินค้าเทกอง
เป็นเรือที่มีดาดฟ้าชั้นเดียวขนาดใหญ่ ใช้สำหรับบรรทุกสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องบรรจุใส่ในตู้คอนเทนเนอร์ สามารถบรรทุกได้ทั้งแบบสินค้าเทกองแห้งหรือเทกองของเหลว ยกตัวอย่างเช่น เมล็ดพันธุ์พืช แร่เหล็ก ถ่านหิน โดยสินค้าจะถูกวางหรือเทกองในห้องระวางสินค้าของเรือนั่นเอง
4. Reefer Cargo Ship หรือ เรือบรรทุกสินค้าแช่แข็ง
เป็นเรือบรรทุกสินค้าแช่เย็น โดยปกติจะใช้เพื่อขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย ซึ่งต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์ที่ควบคุมอุณหภูมิได้ในขณะการขนส่งสินค้า เช่น ผักสดและผลไม้ สัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปลา
5. Tanker หรือ เรือบรรทุกสินค้าที่เป็นของเหลว
เป็นเรือที่ใช้บรรจุของเหลวทุกชนิด ซึ่งถูกออกแบบพิเศษมาสำหรับสินค้าประเภท น้ำมัน สารเคมี หรือบรรทุกแก๊ส จึงเป็นเรือที่ค่อนข้างอันตราย และต้องใช้ความใส่ใจในการดูแลความปลอดภัยขณะการขนส่งเป็นพิเศษ
6. Passenger ship หรือ เรือบรรทุกคนโดยสาร
เป็นเรือโดยสารที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวมีสิ่งอำนวยความสะดวกในตัวเรือมากโดยปกติทั่วไปจะมีขนาดใหญ่กว่าเรือประเภทอื่น ภายในเรือจะมีทั้ง ห้องอาหาร ห้องพักผู้โดยสาร ห้องดูภาพยนต์ ห้องโถงสำหรับเต้นรำ สระว่ายน้ำ ที่ออกกำลังกาย และสิ่งบันเทิงต่างๆ
7. Ro-Ro Ship หรือ เรือบรรทุกรถยนต์
เป็นเรือที่มีลักษณะเฉพาะตัวเหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าหลากหลายประเภท วิธีการขนถ่ายสินค้าสะดวกมีความคล่องตัวสูง
ต้องการอุปกรณ์ยกสินค้าจากท่าเรือน้อยมาก เรือบรรทุกพาหนะประเภท RO-RO จะขนถ่ายยานพาหนะโดยใช้ทางลาด (Ramp) ที่ติดตั้งมากับเรือ โดยปกติทางลาดเหล่านี้จะติดตั้งอยู่ด้านท้ายของเรือ แต่ในเรือบางลำอาจมีการติดตั้งทางลาดที่บริเวณหัวเรือและด้านข้างเรือสำหรับให้สินค้าผ่านเข้า-ออกโดยสะดวก สินค้าที่ขนถ่ายเรือประเภทนี้ ได้แก่ สินค้าบรรจุตู้ สินค้าทั่วไป สินค้าประเภทรถยนต์ หรือสินค้าที่สามารถวางบนล้อเลื่อนได้เป็นต้น